คุกกี้ (Cookies) คือข้อมูลขนาดเล็กที่เว็บไซต์จัดเก็บและส่งไปยังเว็บเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ เพื่อเพิ่มความสะดวกและประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ รวมถึงใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้บนแพลตฟอร์ม เพื่อนำมาปรับปรุงการให้บริการให้เหมาะสม รวดเร็ว และมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น ผู้ใช้สามารถปฏิเสธการใช้งานคุกกี้ได้โดยกดปุ่มปิด () อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าการปิดการใช้งานคุกกี้อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพ หรือความสามารถในการเข้าถึงฟังก์ชันบางส่วนของเว็บไซต์
Helligo เป็นเครื่องหมายการค้าและแบรนด์ที่อยู่ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เสิร์ฟวินเนอร์ จำกัด (“บริษัท”) โดยบริษัทเป็นเจ้าของสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในผลิตภัณฑ์ บริการ วัสดุ สื่อ และองค์ประกอบทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ Helligo บริษัทมีอำนาจโดยสมบูรณ์ในการพัฒนา ผลิต จัดจำหน่าย และให้บริการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ Helligo การอ้างอิง การเข้าถึง หรือการใช้ชื่อ เครื่องหมาย หรือสื่อใด ๆ ของแบรนด์ Helligo ต้องเป็นไปตามนโยบาย ข้อกำหนด และเงื่อนไขที่บริษัท เสิร์ฟวินเนอร์ จำกัด กำหนดไว้เท่านั้น
เครื่องหมายการค้า ชื่อทางการค้า โลโก้ เนื้อหา ข้อมูล ข้อความ กราฟิก ภาพประกอบ งานออกแบบ ระบบซอฟต์แวร์ รวมถึงสื่อหรือวัสดุใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ Helligo (“ทรัพย์สินทางปัญญา”) เป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะของบริษัท เสิร์ฟวินเนอร์ จำกัด การนำทรัพย์สินทางปัญญาดังกล่าวไปใช้ ทำซ้ำ เผยแพร่ ดัดแปลง หรือนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ โดยไม่ได้รับอนุญาตล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัท ถือเป็นการละเมิดสิทธิ์ของบริษัท และบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญาตามที่เห็นสมควร
บริษัท เสิร์ฟวินเนอร์ จำกัด (“บริษัท”) ให้บริการออกแบบและก่อสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ รวมถึงโซลูชันด้านโครงสร้างพื้นฐานไอทีแบบครบวงจร อาทิ การออกแบบระบบ การติดตั้งโครงข่ายอินเทอร์เน็ต การพัฒนาซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชัน ตลอดจนการให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัทดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของจริยธรรม ความโปร่งใส และการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จึงได้กำหนดนโยบาย มาตรการ และกระบวนการในการจัดเก็บ ใช้ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของเจ้าของข้อมูล และเป็นไปตามกฎหมายที่บังคับใช้
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลใด ๆ ที่สามารถใช้ระบุตัวบุคคลได้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม โดยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเก็บรวบรวมผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังต่อไปนี้:
1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้แก่บริษัทโดยตรงหรือโดยอ้อม เช่น การลงทะเบียน การใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการ การค้นหา การเรียกดูข้อมูล หรือการติดต่อสื่อสารผ่านช่องทางดิจิทัลของบริษัท สื่อสังคมออนไลน์ หรือช่องทางการติดต่ออื่นของบริษัท
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับหรือมีสิทธิ์เข้าถึงจากแหล่งข้อมูลภายนอก เช่น หน่วยงานของรัฐ พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ให้บริการข้อมูล บริษัทจัดหางาน หรือเว็บไซต์อื่นที่เกี่ยวข้อง
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทอาจเก็บรวบรวม
1. ข้อมูลระบุตัวบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี และสำเนาเอกสารยืนยันตัวตน
2. ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล บัญชีผู้ใช้โซเชียลมีเดีย และช่องทางการติดต่อสื่อสารอื่น ๆ
3. ข้อมูลการทำงานและ/หรือข้อมูลนิติบุคคล เช่น ชื่อองค์กร ที่อยู่ขององค์กร เลขประจำตัวผู้เสียภาษีนิติบุคคล และเอกสารที่เกี่ยวข้อง
4. ข้อมูลธุรกรรม เช่น เลขที่บัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี ข้อมูลบัตรเครดิต ช่องทางการชำระเงิน สลิปการโอนเงิน และข้อมูลธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการซื้อหรือเช่าบริการ
5. ข้อมูลอุปกรณ์ เช่น IP Address, MAC Address และคุกกี้ (Cookies)
6. ข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์และ/หรือพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ เช่น IP Address ประเทศที่เข้าใช้งาน ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) วันที่และเวลาที่เข้าใช้งาน เป็นต้น
7. ข้อมูลอื่น ๆ เช่น ข้อมูลเสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว (วิดีโอ) และข้อมูลอื่นใดที่เข้าข่ายเป็นข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
บุคคลหรือหน่วยงานที่บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้พื้นฐานทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือภายใต้ความยินยอมของท่าน ตามกรณีดังต่อไปนี้:
1. พนักงานของบริษัท และ/หรือ พันธมิตรทางธุรกิจที่ได้รับมอบหมายอย่างถูกต้องให้ปฏิบัติงานแทนบริษัท
2. บุคคลภายนอกหรือผู้ให้บริการที่บริษัทว่าจ้างให้ดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท
3. หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานกำกับดูแล หรือบุคคลใดที่บริษัทมีหน้าที่ต้องเปิดเผยข้อมูลตามกฎหมายหรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เฉพาะเท่าที่จำเป็น ในระหว่างที่ท่านยังเป็นลูกค้าหรือยังมีความสัมพันธ์กับบริษัท และต่อไปอีกระยะหนึ่งเท่าที่กฎหมายหรือข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกำหนด เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการให้บริการและการดำเนินงานของบริษัท
วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
1. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ วางแผนและดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาด วิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งาน ประเมินคุณภาพการให้บริการ ส่งเสริมความสัมพันธ์กับลูกค้า และพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
2. เพื่อนำไปใช้ในการจัดทำกิจกรรมทางการตลาด กิจกรรมส่งเสริมการขาย หรือการสื่อสารทางการตลาดที่เกี่ยวข้อง
3. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งของหน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมาย
4. เพื่อป้องกัน ตรวจสอบ จัดการ และลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ภัยคุกคามทางไซเบอร์ หรือการกระทำที่ผิดกฎหมาย
5. เพื่อใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลของบุคคลซึ่งอยู่ภายใต้คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลเกี่ยวกับการเป็นผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์
1. การว่าจ้างบริการจะมีผลสมบูรณ์เมื่อมีการอนุมัติใบเสนอราคาและมีการออกใบสั่งซื้อ (Purchase Order: PO) อย่างเป็นทางการแล้ว
2. การดำเนินงานและการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมดจะอ้างอิงตามใบเสนอราคา (Quotation) ฉบับล่าสุดที่ได้รับการอนุมัติจากลูกค้า
3. สินค้าหรือบริการที่ได้รับการอนุมัติแล้วไม่สามารถเปลี่ยนแปลง ยกเลิก หรือขอคืนเงินได้ เว้นแต่เป็นกรณีที่เกิดจากความผิดพลาดของผู้ขายหรือผู้ให้บริการโดยตรง
4. งานติดตั้งหรือรายการใด ๆ ที่ต้องมีการแก้ไข รื้อถอน ปรับเปลี่ยน หรือเคลื่อนย้ายเพิ่มเติม จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตามที่บริษัทกำหนด
5. ในกรณีที่มีการยกเลิกสัญญาระหว่างการดำเนินงาน จะไม่มีการคืนค่าบริการหรือเงินมัดจำใด ๆ และลูกค้ายังคงต้องชำระยอดค้างชำระทั้งหมดในทันที หรือเป็นไปตามที่ระบุไว้ในสัญญาให้บริการ
บริษัทให้การรับประกันงานติดตั้งและ/หรือก่อสร้างเป็นระยะเวลา 60 วัน ถึง 3 ปี (ขึ้นอยู่กับลักษณะงานและเงื่อนไขของแต่ละโครงการ) โดยการรับประกันดังกล่าวไม่ครอบคลุมถึงความเสียหายที่เกิดจากการแก้ไข ดัดแปลง ต่อเติม หรือเปลี่ยนแปลงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาตจากบริษัท รวมถึงความเสียหายที่เกิดจากการกระทำของลูกค้า ผู้รับเหมาภายนอก การโจรกรรม การก่อวินาศกรรม ภัยธรรมชาติ หรือปัญหาโครงสร้างอาคารเดิมที่มีอยู่ก่อนการติดตั้ง
1. ข้อมูลทั้งหมดที่ลูกค้าให้แก่บริษัทต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงกับความเป็นจริง
2. สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการจดชื่อโดเมน (Domain Name) เมื่อลงทะเบียนชื่อโดเมนแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงชื่อเดิมได้ หากต้องการใช้ชื่อโดเมนใหม่จะมีค่าใช้จ่ายสำหรับการจดทะเบียนเพิ่มเติม
3. สินค้า/บริการบางประเภทอาจกำหนดให้มีการชำระเงินล่วงหน้า (Prepayment) หากไม่มีการยืนยันหรือดำเนินการภายในระยะเวลาที่บริษัทกำหนด ใบเสนอราคาดังกล่าวอาจถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ
4. ผู้ให้บริการไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับข้อมูล เว็บไซต์ ร้านค้าออนไลน์ หรือระบบใด ๆ ของลูกค้า ไม่ว่าจะเกิดจากเหตุใดก็ตาม เว้นแต่จะได้ตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรไว้เป็นอย่างอื่น
5. ในกรณีที่ผู้ให้บริการได้รับเรื่องร้องเรียน คำร้องขอ หรือพบพฤติกรรมที่เข้าข่ายผิดปกติหรือสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำที่ผิดกฎหมาย ผู้ให้บริการมีสิทธิ์ระงับการให้บริการชั่วคราวหรือถาวรได้ทันที
6. หากตรวจพบการใช้บัตรเครดิตหรือช่องทางการชำระเงินโดยมิชอบหรือมีลักษณะฉ้อฉล บริการจะถูกระงับหรือยุติโดยทันที
7. เนื้อหา ผลงานออกแบบ และระบบทั้งหมดที่พัฒนาโดยผู้ให้บริการ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้ให้บริการ ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือทำซ้ำไม่ว่าในรูปแบบใด โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร
8. การติดต่อสื่อสารอย่างเป็นทางการทั้งหมด จะดำเนินการผ่านอีเมลที่ลูกค้าลงทะเบียนไว้ และ/หรือระบบ Ticket Task (IT Ticketing) ของบริษัทเท่านั้น การเปลี่ยนอีเมลผู้ดูแลระบบจำเป็นต้องมีเอกสารยืนยันตามที่บริษัทกำหนด
9. ไฟล์หรือข้อมูลที่ตรวจพบว่ามีไวรัสหรือมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย จะถูกระงับการใช้งานหรือกักกันโดยอัตโนมัติ โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
10. บริการอาจถูกระงับชั่วคราวหรือถาวร หากมีการใช้งานเกินโควต้า แบนด์วิดท์ หรือทรัพยากรที่กำหนดไว้ในแพ็กเกจหรือสัญญาให้บริการ
11. ผู้ใช้บริการมีหน้าที่รับผิดชอบในการสำรองข้อมูลของตนเอง การร้องขอให้ผู้ให้บริการดำเนินการสำรองข้อมูลแทน อาจมีค่าบริการเพิ่มเติมตามอัตราที่บริษัทกำหนด
12. เงื่อนไขการให้บริการ รายละเอียดบริการ และอัตราค่าบริการ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
13. ผู้ใช้บริการรับทราบและยินยอมว่าข้อมูลที่จำเป็นบางส่วน อาจถูกนำไปใช้เพื่อการยืนยันตัวตน การประสานงาน หรือการเปิดเผยต่อหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมาย เมื่อมีหนังสือร้องขอหรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
14. ผู้ให้บริการมีสิทธิ์ระงับหรือยุติการให้บริการโดยไม่คืนค่าบริการใด ๆ หากผู้ใช้บริการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไข ไม่ว่าข้อหนึ่งข้อใด โดยไม่จำเป็นต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
15. ผู้ให้บริการมีสถานะเป็นเพียงผู้พัฒนาระบบและผู้ให้เช่าระบบเท่านั้น และไม่รับผิดชอบต่อการกระทำที่ผิดกฎหมายใด ๆ ของผู้ใช้บริการ ไม่ว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายภายในประเทศหรือกฎหมายระหว่างประเทศ
1. ผู้ขายหรือผู้ให้บริการสามารถส่งใบแจ้งหนี้หรือเอกสารเรียกเก็บเงิน ทางอีเมลไปยัง [email protected] (Payment Notice) เพื่อใช้ประกอบการดำเนินการชำระเงิน
2. ผู้ขายหรือผู้ให้บริการต้องจัดส่งใบแจ้งหนี้/เอกสารเรียกเก็บเงินฉบับจริง ถึงบริษัทภายในวันที่ 20 ของแต่ละเดือน เพื่อให้สามารถนำเข้ากระบวนการประมวลผลการจ่ายเงินในรอบเดือนนั้น
3. การชำระเงินจะดำเนินการโดยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้ขายหรือผู้ให้บริการ ภายในวันที่ 28 ของแต่ละเดือน หรือเป็นไปตามเงื่อนไขเครดิตที่ได้ตกลงร่วมกันไว้เป็นลายลักษณ์อักษร
4. หากมีการจัดส่งเอกสารฉบับจริงหลังวันที่ 20 ของเดือน การชำระเงินจะถูกเลื่อนไปดำเนินการในรอบการจ่ายเงินถัดไป
5. การจัดส่งเอกสารต้นฉบับสามารถดำเนินการได้ 2 ช่องทาง ได้แก่ การจัดส่งทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) มายังที่อยู่ของบริษัท หรือส่งมอบผ่านผู้จัดการโครงการที่รับผิดชอบงานของท่าน
6. ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีจะต้องระบุวันที่ตามวันที่มีการชำระเงินจริง และผู้ขายหรือผู้ให้บริการต้องจัดส่งเอกสารฉบับจริงให้บริษัทภายใน 7 วัน นับจากวันที่ได้รับชำระเงิน
7. หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (หากมี) บริษัทจะจัดส่งให้ท่านทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ภายใน 7 วันทำการ โดยผู้ขายหรือผู้ให้บริการต้องแจ้งที่อยู่สำหรับจัดส่งเอกสารให้เจ้าหน้าที่ของบริษัททราบอย่างชัดเจน
ติดต่อฝ่ายขาย
ทำการ วันจันทร์ - ศุกร์
ตั้งแต่เวลา 9.30 - 18.00 น.
เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์
02 430 2422